General English
Tense

easyeasyenglish
Praneet Buathong 543410020124
วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
The Ant and the Chrysalis
The Ant and the Chrysalis
An Ant nimbly running about in the sunshine in search of food came across a Chrysalis that was very near its time of change.
The Chrysalis moved its tail, and thus attracted the attention of the Ant, who then saw for the first time that it was alive.
“Poor, pitiable animal!” cried the Ant disdainfully.
“What a sad fate is yours! While I can run hither and thither, at my pleasure, and, if I wish,
-ascend the tallest tree, you lie imprisoned here in your shell, with power only to move a joint or two of your scaly tail. ”
The Chrysalis heard all this, but did not try to make any reply. A few days after, when the Ant passed that way again, nothing but the shell remained.
Wondering what had become of its contents, he felt himself suddenly shaded and fanned by the gorgeous wings of abeautiful Butterfly.
“Behold in me,” said the Butterfly, “your much-pitied friend! Boast now of your powers to run and climb as long as you can get me to listen.”
So saying, the Butterfly rose in the air, and, borne along and aloft on the summer breeze, was soon lost to the sight of the Ant forever.
“Appearances are deceptive.”
มดกับดักแด้
ในวันอากาศแจ่มใส มดตัวหนึ่งกำลังวิ่งออกหาอาหารอย่างคล่องแคล่ว มันเดินข้ามผ่านดักแด้ตัวหนึ่งซึ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายจากดักแด้เป็นผีเสื้อ
ดักแด้ที่ขยับหางของมัน ทำให้มดจ้องมองด้วยความสนใจ และรู้ว่าสิ่งที่มันเห็นนั้นมีชีวิต
“น่าสงสารจริง ๆ เล๊ย…ย” มดร้องด้วยเสียงเหยียดหยัน
“เจ้านี่ช่างมีโชคชะตาที่น่าเศร้าอะไรเช่นนี้ ในขณะที่ข้าสามารถที่จะวิ่งไปไหนมาไหนได้ตามที่ใจต้องการ ปีนขึ้นยอดขต้นไม้ แต่เจ้ากลับได้แต่นอนนิ่งในเปลือกของตัวเองอยู่ตรงนี้ และมีแรงแค่ขยับหางเท่านั้น
ดักแด้ได้ยินคำเหยียดหยันที่มดพูดออกมาทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบใด ๆ ไม่กี่วันต่อมา เมื่อมดตัวดังกล่าวเดินผ่านมาทางนั้นอีกครั้ง ก็ไม่พบสิ่งใดอีก นอกจากเปลือกของดักแด้ที่ยังคงอยู่บริเวณนั้น
มันประหลาดใจว่าสิ่งที่อยู่ในเปลือกกลายไปเป็นอะไร มดรู้สึกทันทีว่าตัวเองกำลังได้รับร่มเงาจากปีกที่สวยงามของผีเสื้อ
“เห็นข้าไหม” ผีเสื้อพูด “เจ้าน่าเวทนายิ่งนัก! ตอนนี้เจ้าสามารถโอ้อวดพละกำลังของเจ้าในการวิ่งและปีนไต่ได้เท่าที่ขขเจ้าอยากให้ข้าฟัง”
จากนั้น ผีเสื้อก็บินขึ้นไปในอากาศ มุ่งหน้าไปตามสายลมที่แผ่วเบาในฤดูร้อน จนลับสายตาของมดไปตลอดกาล
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น”
The Lion and The Deer
The Lion and The Deer
A little deer was nibbling tender grass happily until he accidentally wandered into the lion’s region.
The little deer saw the footprints of lions and felt scared.
Because he had heard that lions were mean and would surely kill him.
A lion walked past and saw the little deer trembling on the ground.
The lion just walked past without paying attention the little deer but also wondering why the lion did not harm him.
After a while another lion walked past the little deer slowly looked up.
The lion also walked past him like the other lion without turning his face to see the deer.
The little deer told his parents about his adventure.
“Foolishness make us scared.”
ราชสีห์กับกวาง
กวางน้อยตัวหนึ่งแทะเล็มหญ้าอ่อนอย่างเพลิดเพลิน จนพลัดหลงเข้าไปในถิ่นของสิงโต
กวางน้อยเห็นรอยเท้าของสิงโตและรู้สึกหวาดกลัว
เพราะมันได้ยินมาว่าสิงโตนั้นใจร้ายและต้องฆ่ามันตายอย่างแน่นอน
สิงโตตัวหนึ่งเดินผ่านมาเห็นกวางน้อยหมอบตัวสั่นอยู่บนพื้น
สิงโตเดินผ่านไปโดยไม่สนใจกวางน้อยเลย ทำให้กวางน้อยสงสัยว่าเหตุใดสิงโตถึงไม่ทำร้ายตน
สักครู่หนึ่งก็มีสิงโตเดินผ่านมาอีกตัวหนึ่ง กวางน้อยค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง
สิงโตตัวที่สองก็เพียงผ่านเลยไปเหมือนตัวก่อน โดยมิได้หันมามองกวางเสียด้วยซ้ำ
กวางน้อยเล่าเรื่องราวผจญภัยให้ครอบครัวฟังอย่างมีความสุข
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ความเขลาทำให้เกิดความกลัว”
The Fox and The Kid
The Fox and The Kid
A kid sneaked off the herd to graze in the forest.
He walked on and on until he was very far away from the herd.
When it was evening, he started to walk back.
On the way he met a fox.
The kid was frightened and tried to run away.
But the fox was faster and blocked his way.
“Don’t try to run away. It is hopeless,” growled the fox.
The kid stood still and thought of how to save himself.
Suddenly, he came up with a trick and spoke to the fox, “I have heard that you have a very beautiful voice.”
“Now that I will be your food, let me have a chance to hear your voice.”
When the fox heard the nice words, he began to howl.
His howl was so loud that it reached the dogs that looked after the goats.
The dog quickly ran towards the howl.
When the dogs arrived, they tried to chase the fox away.
The fox could not fight the dogs. He had to leave the kid behind and quickly ran away.
“A bad situation can be solved by wise thinking.”
สุนัขจิ้งจอกกับลูกแพะ
ลูกแพะตัวหนึ่งหลบออกมาจากฝูงไปหาหญ้ากินในป่าตามลำพัง
มันเดินไปเรื่อย ๆ จนห่างจากฝูงออกไปมาก
พอตกตอนเย็น ลูกแพะจึงเริ่มเดินกลับไปที่ฝูงของมัน
ระหว่างทางมันบังเอิญไปเจอกับสุนัขจิ้งจอกเข้า
ลูกแพะตกใจกลัวมาก มันพยายามจะวิ่งหนี
แต่สุนัขจิ้งจอกไวกว่า จึงวิ่งมาสกัดหน้ามันไว้ได้
“เจ้าอย่าคิดหนีเลย ไม่มีทางหนีพ้นหรอก” สุนัขจิ้งจอกขู่
ลูกแพะหยุดยืนนิ่งแล้วคิดหาทางเอาตัวรอด
ทันใดนั้นมันก็นึกอุบายอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ จึงบอกสุนัขจิ้งจอกไปว่า “ข้าได้ยินมาว่าท่านมีเสียงร้องที่ไพเราะนัก”
“ไหน ๆ ข้าจะต้องเป็นอาหารของท่านแล้ว ขอให้ข้าได้มีโอกาสฟังเสียงร้องของท่านจะได้หรือไม่”
สุนัขจิ้งจอกได้ยินคำเยินยอ ก็รีบร้องหอนขึ้นทันที
เสียงร้องของมันดังไปไกลถึงฝูงสุนัขที่ทำหน้าที่ดูแลแพะ
พวกมันจึงรีบวิ่งตามเสียงร้องนั้นไป
เมื่อไปถึงมันรีบช่วยกันขับไล่สุนัขจิ้งจอก
สุนัขจิ้งจอกสู้ไม่ไหว จำต้องทิ้งลูกแพะไว้ แล้วรีบหลบหนีไปโดยเร็ว
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“สถานการณ์ที่เลวร้าย แก้ไขได้ด้วยปัญญา”
The Cock and the Fox
The Cock and the Fox
There were villagers who had a cock. They wanted it to wake them up at dawn.
The cock was kept at the far end of the village.
Not far away, there was a fox that was waiting for a chance to catch the cock.
One day, when there was no one around; the fox went to the cock.
The fox said, “Handsome cock, do you know that your father and I are friends?”
“I remember that your father’s crowing was beautiful; so, your crowing must be great too. Can you crow for me?” the fox asked.
Proudly, the cock agreed to crow for the fox.
When the cock began to crow, the fox jumped up, held the cock in its mouth, and ran away.
The cock was frightened and crowed louder for help.
The villagers heard the voice. “Look, a fox is stealing our cock,” they yelled, took sticks and followed them.
The cock saw the villagers coming to help, it said to the fox, “Do you hear what they said? They won’t let you take me”
“Tell them that I am yours and they will stop following you,” the cock played tricks to the fox. Without thinking, the fox opened its mouth to shout.
At the moment, the cock flew away to the top of a tree. “What a fool you are. I’ll never be yours.”
By then, the villagers caught up with the fox. They beat up the fox and brought the cock back.
“Because of my silliness, I got hurt and lost my food,” the fox said sadly.
“Think carefully before act.”
ไก่โต้งกับสุนัขจิ้งจอก
มีชาวบ้านเลี้ยงไก่โต้งไว้ตัวหนึ่งเพื่อให้มันคอยร้องขันปลุกพวกเขาในเวลาใกล้ฟ้าสาง
ไก่โต้งจึงถูกจัดให้อาศัยอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน
ไม่ไกลกันนัก มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งคอยที่จะจับไก่โต้งตัวนี้กิน
จนวันหนึ่ง สุนัขจิ้งจอกเห็นโอกาสเหมาะ ไม่มีใครจึงเดินรี่ไปหาไก่โต้งทันที
เมื่อไปถึง มันจึงเอ๋ยทักขึ้นว่า “เจ้าไก่โต้งผู้งามสง่า เจ้ารู้ไหมว่าข้ากับพ่อของเจ้าเป็นเพื่อนกัน”
“ข้าจำได้ว่า เสียงขันของพ่อเจ้าช่างไพเราะนัก เจ้าเองก็คงขันได้ไพเราะเช่นกัน เจ้าจะกรุณาขันให้ข้าได้ยินสักนิดได้หรือไม่” สุนัขจิ้งจอกแสร้งขอร้อง
ไก่โต้งได้ยินก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับอย่างภาคภูมิใจ
เมื่อไก่โต้งเริ่มโก่งคอขัน เจ้าสุนัขจิ้งจอกซึ่งรออยู่รีบกระโดดขึ้นคาบไก่โต้งไว้แล้ววิ่งหนีไป
ไก่โต้งตกใจ พยายามขันเสียงดังหวังให้ชาวบ้านได้ยิน
เมื่อชาวบ้านได้ยินเสียงร้องของไก่โต้ง “ดูนั่น! หมาจิ้งจอกกำลังคาบไก่ของเราวิ่งหนีไปแล้ว” ชาวบ้านตะโกนบอกกัน แล้วต่างพากันคว้าท่อนไม้ออกวิ่งไล่ตามไป
เมื่อไก่โต้งเห็นชาวบ้านวิ่งตามมา มันจึงหันมาบอกเจ้าสุนัขจิ้งจอกว่า “เจ้าได้ยินที่พวกเขาพูดกันหรือไม่ ว่าจะไม่ยอมให้เจ้าเอาข้าไป”
“ทำไมเจ้าไม่ร้องบอกพวกเขาไปว่า ข้าเป็นไก่ของเจ้า พวกเขาจะได้เลิกตาม” ไก่โต้งใช้อุบายหลอก โดยไม่ทันคิดไตร่ตรอง เจ้าสุนัขจิ้งจอกรีบเปิดปากเพื่อตะโกนทันที
จังหวะนั้นเอง เจ้าไก่โต้งรีบบินหนีไปเกาะที่กิ่งไม้แล้วหันมาพูดเยาะเย้ยว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง ข้าไม่มีวันเป็นของเข้าหรอก”
พอดีกับที่ชาวบ้านวิ่งมาถึง ต่างช่วยกันทุบตีเจ้าสุนัขจิ้งจอกเป็นการใหญ่ ก่อนที่จะอุ้มไก่โต้งกลับไป
สุนัขจิ้งจอกได้แต่คร่ำครวญว่า “ข้าต้องมาเจ็บตัว แถมอดกินเจ้าไก่โต้งนั่น เพราะความเบาปัญญาของตัวข้าเองแท้ ๆ ”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“คิดให้รอบคอบก่อนลงมือทำ”
วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
การใช้ Tense ต่างๆ
การใช้ Future Simple Tense
โครงสร้าง (S. + will/shall + V.1)
ในแทบทุกกรณี (โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) * will ใช้กับประธานทุกคำรวมทั้ง I และ We
ในประโยคสนทนาไม่มีปัญหาในการใช้ shall หรือ will เนื่องจากทั้ง shall และ will ต่างก็ลดเสียงเป็น 'll เหมือนกัน
We'll be back.
They'll go home.
1.ใช้กับการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งปกติจะมีคำแสงอนาคต กำกับอยู่ด้วย เช่น
soon, shortly, tomorrow, tonight, next week, next month, next year, in a few minutes, a month from now เช่น
- They will leave soon.
- They will leave tonight.
- They will leave tomorrow.
1.shall กับ will
คำทั้งสองนี้มีความหมายได้ 3 อย่าง คือ แสดงความสมัครใจ แสดงความจำใจ แสดงความเป็นอนาคต
ความหมายทั้งสามนี้ แม้จะรู้ว่ามันมีอยู่ แต่เราไม่สามารถชี้ให้เห็นถึงข้อแตกต่างอย่างชัดเจนได้ เมื่อใช้แสดงอนาคตนั้นก็แสดงความจงใจด้วยในตัว เป็นต้น
2.'Pure' Future
โดยเหตุที่ความหมายของ will / shall เป็นได้หลายกรณีดังกล่าวเมื่อใช้ในความหมายที่แสดงอนาคตอย่างแท้จริง จึงนิยมเรียกชื่อเสียใหม่ว่า 'Pure' Future เช่น
- I shall be twenty-nine tomorrow. พรุ่งนี้ผมจะมีอายุ(ครบ) 29 ปี
3.ในประเทศอังกฤษ (ซึ่งเรียกว่า England ไม่ใช่รวมทั้งเกาะซึ่งเรียกว่า Britain) หรืจะว่าตามจริงก็ต้องในนครลอนดอน รูปคำถามของ I และ We มักเป็น Shall I? หรือ we? เสมอ ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้
- 'You'll never pass the examination.' คุณจะสอบไม่ได้แน่
- 'Won't I?' ทำไมหละ( = ทำไมถึงจะสอบไม่ได้ล่ะ ,ทำไมถึงว่าอย่างนั้นล่ะ มีเหตุผลอะไร)
ข้อความนี้มีความหมายเป็นเชิงขออนุญาต ไม่มีความหมายเป็นคำถามเต็มที่ เช่น
- Shall I open the window? ผมเปิดหน้าต่างได้ไหมครับ
- Will you help me carry this bag? คุณจะช่วยกรุณาถือกระเป๋านี้ได้ไหม
- You and I will both be promoted. คุณและผมทั้งสองคนจะได้เลื่อนขั้น
การใช้ Present Continuous Tense
การใช้ Present Continuous Tense
โครงสร้าง (S. + is/am/are + V.ing)
1.ใช้เมื่อการกระทำนั้นกำลังดำเนินอยู่ต่อหน้า(ในขณะที่พูดประโยคนั้น) เช่น
1.ใช้เมื่อการกระทำนั้นกำลังดำเนินอยู่ต่อหน้า(ในขณะที่พูดประโยคนั้น) เช่น
- The sun is shining. ดวงอาทิตย์กำลังส่องแสง
- The bees are humming. ฝูงผึ้งกำลังส่งเสียงหึ่ง
- What are you doing? คุณกำลังทำอะไร
ในกรณีที่ผู้พูดต้องการ เน้นคำว่า กำลัง ให้หนักแน่นยิ่งขึ้น นิยมเติมคำ just ลงข้างหน้า(just ในกรณีเช่นนี้ไม่มีคำแปลในภาษาไทย)เช่น
- The children are just having breakfast. พวกเด็ก ๆ กำลังรับประทานอาหารเช้ากันอยู่
2.ใช้ในเหตุการณ์ที่ดำเนินอยู่เป็นประจำในขณะที่พูด
นี่เป็นข้อยกเว้นจากหลักทั่วไปที่ว่า ใช้ Present Simple กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น
นี่เป็นข้อยกเว้นจากหลักทั่วไปที่ว่า ใช้ Present Simple กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น
- My son works hard this term. เทอมนี้ ลูกชายของผมเรียนหนังสืออย่างขะมักเขม้น
- He tries his best now. ขณะนี้เขา(ใช้ความ)พยายามอย่างเต็มที่ (อย่างเต็มความสามารถ)
ประโยคทั้งสองนี้ใช้ตามหลักทั่วไป ซึ่งจะพบว่าเป็นประโยคเนือย ๆ ไม่กระฉับกระแฉง ประโยคดังกล่าวจะมีความหมายดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าใช้ Present Continuous คือ
- My son is working hard this term.
- He is trying his best now.
การใช้ Present Coutinuous ในความหมายที่เป็นอนาคตนี้ ปกติเขาใช้กับกริยาที่มีการเคลื่อนที่(verbs of movement) แต่จะใช้ กับกริยาอื่นบ้างก็ได้ เช่น
- We are going to Paris on Sunday. วันอาทิตย์นี้เราจะไปนครปารีส
- Dang is coming here next week and is staying here until May. แดงจะมาที่นี่ในสัปดาห์หน้า และเขาจะอยู่ที่นี่จนถึงเดือนพฤษภาคม
- What are you doing next Sunday? วันอาทิตย์หน้าคุณจะทำอย่างไร
กริยาที่ไม่ใช้ใน Continuous Tenses เช่น
hear, see, feel, smell, taste, love, hate, know, understand, believe
หมายเหตุ ฯลฯ
กริยาที่ไม่ใช้ใน Continuous ได้แก่ กริยาแสดงการรับรู้ (verbs of perception) แสดงภาวะของจิตใจ(state of mind) ความรู้สึก(feeling) หรือแสดงสัมพันธภาพ (relationship)
เมื่อต้องการจะบอกว่า กำลังมีอาการเช่นนี้อยู่ คงใช้เพียง Present simple เท่านั้น เช่น
- I don't see anything here.(ไม่ใช่ I am not seeing....) ผมไม่เห็นอะไรที่นี้เลย
- I see what you mean. (ไม่ใช่ I am seeing...) ผมเข้าใจว่าคุณหมายความถึงอะไร
- Do you hear the noise? (ไม่ใช่ Are you hearing...) คุณได้ยินเสียงอะไรไหม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)